4adk.com
ของสะสมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าสาว ๆ ต้องมีกันติดห้องบ้างแหละ แต่ละคนอาจจะสะสมแตกต่างกันไปตามความชอบ แต่สาว ๆ อาจจะไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองสะสมนั้นจะสามารถบอกนิสัยส่วนตัวหรือความต้องการลึก ๆ ในใจได้ วันนี้ Wongnai Beauty จึงอยากจะพาสาว ๆ มาทายนิสัยจากของสะสมกันค่ะ สะสมของแบบนี้บ่งบอกตัวตนอย่างไร มีนิสัยที่แท้จริงในใจอย่างไร มาลองทายกันเถอะค่ะ อยากรู้แล้วไปดูของสะสมแต่ละอย่างและนิสัยที่ใช่กันได้เลยค่า ทายนิสัยจากของสะสมที่ชอบ!
แบรนด์ ความซับซ้อน สภาพ และเรื่องราวของนาฬิกาเรือนนั้น "ผู้ผลิตมีความสำคัญมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าปั๊มตรา Patek Philippe แล้วจะได้ราคาดีทั้งหมด ก็ไม่จริง ขณะที่เรื่องราวความเป็นมา ใครเคยเป็นเจ้าของ จะมีผลต่อราคาด้วย เพราะถ้าคนมีชื่อเสียงเคยเป็นเจ้าของจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นด้วย" 2. ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย คุณภาพ และเงื่อนไขของสินค้า 3. กล่องและเอกสารรับประกันเป็นสิ่งสำคัญ 4. การประมูลนาฬิกาควรเป็นทางเลือกท้ายๆ นอกจากมีประสบการณ์ "ถ้าดูไม่เป็น ไม่เชียร์ให้ไปประมูล เพราะหากเป็นนาฬิกาที่ผ่านการซ่อมมาแล้ว หรือสภาพไม่สมบูรณ์ นักสะสมจะไม่สนใจ ซึ่งในตลาดแบบนี้ก็เหมือนตลาดหุ้นที่มีทั้งแมลงเม่า และแก๊ง 4 โมงเย็น" 5. นาฬิกาที่มีราคาสูงควรจะซื้อจากคนรู้จัก 6.
ของสะสมผู้ชาย รวม 10 ไอเทมล้ำค่าที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบสะสม ของเหล่านี้ล้วนแล้วดีต่อใจเห็นเมื่อไหร่เป็นต้องวิ่งเข้าใส่เมื่อนั้น อยากรู้จังว่าเพื่อน ๆ ชอบสะสมอะไรกันบ้างไหม หรือชอบซื้ออะไรมาเก็บไว้เป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า? ที่ถามนี้ไม่ใช่อะไร เพราะปัจจุบันของสะสมหรือของเก่าต่าง ๆ กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ซึ่งการสะสมของอะไรสักอย่างนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะทำให้คนสะสมมีความสุขแล้ว การได้ของสะสมที่หายากมาไว้ในครอบครองก็เหมือนเป็นบรรลุเป้าหมายในชีวิตอย่างหนึ่งที่ทำให้คนมีกำลังใจเดินหน้าต่ออีกด้วย โดยผู้ชายแต่ละคนต่างก็มีของสะสมที่ไม่เหมือนกัน สำหรับหนุ่ม ๆ คนไหนที่ชอบสะสมของ ก็ลองมาดู 10 ของสะสมผู้ชาย สุดฮิต ที่กระปุกดอทคอมรวบรวมมาฝากกันได้เลย ว่าในบรรดาของเหล่านี้มีอะไรที่เพื่อน ๆ สะสมกันอยู่บ้าง ส่วนใครมีของสะสมอะไรแปลก ๆ นอกเหนือจากนี้ก็เอามาแชร์กันได้นะครับ... 1. กางเกงยีนส์ กางเกงยีนส์ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าแฟชั่นที่เกิดมาเพื่อผู้ชายอย่างเดียวเท่านั้น ใต้ผ้าเดนิมสีฟ้าครามของกางเกงยีนส์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ต่างก็มีประวัติหรือเรื่องราวมากมายซ้อนอยู่ ซึ่งประวัติของบางรุ่นให้เล่าทั้งวันยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ แถมกางเกงเหล่านี้ยิ่งเก่ายิ่งคลาสสิกมากขึ้นด้วย และนี่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ชายหลายคนคลั่งไคล้และเลือกที่จะสะสมกางเกงยีนส์นั่นเอง 2.
รองเท้า เพราะรองเท้าจะเดินทางไปกับเราทุกย่างก้าว ทำให้รู้สึกผูกพันเหมือนมีคู่แท้อยู่ข้างกาย แถมรองเท้าบางรุ่นก็มีสตอรี่ที่น่าสนใจมาก ๆ อีกเช่นกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ชายถึงได้หลงใหลและชอบสะสมรองเท้ากัน ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกไม่อินสักเท่าไหร่ เพราะเป็นไอเทมแฟชั่นที่มีหลายสไตล์ และมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาตลอด แต่สำหรับคนรักรองเท้าแล้วทุกคู่ล้วนมีคุณค่าทางจิตใจมาก ๆ สำหรับพวกเขา 3. นาฬิกาข้อมือ นาฟิกาข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องประดับที่สวยงาม ดูมีพลังอำนาจ และสามารถบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผู้ใส่ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังเป็นของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจ และมีมูลค่าสูงตามกาลเวลาอีกด้วย เพราะบางรุ่นยังถูกสร้างมาแค่ไม่กี่เรือนบนโลกเท่านั้น ทำให้ยิ่งสะสมนานวันมูลค่ายิ่งสูงขึ้น แล้วการได้ครอบครองของสิ่งที่สวยงามและหายากยิ่งกว่าทอง ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของผู้ชายอีกเช่นกัน 4. ของเล่นหรือฟิกเกอร์ ของเล่นบางชิ้นเปรียบเสมือนความทรงจำดี ๆ ในวัยเด็กของใครหลาย ๆ คน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ผู้ชายจะชอบสะสม โมเดลรถยนต์ หุ่นยนต์ ฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนที่เขาเคยเล่นเคยชอบเมื่อครั้งยังเเยาว์วัย เพราะแค่ได้มองได้เห็นทุกวันก็มีความสุขจนยิ้มแก้มปริแล้ว 5.
เอาของสะสมออกมาวางโชว์ที่ไหนได้อีก ถ้าไม่ใช่ในตู้โชว์หรือชั้นหนังสือ แขวนกำแพงแทนกรอบรูป ทำให้กำแพงบ้านน่าสนใจมากขึ้น อย่างในภาพข้างล่างเป็นกระจกเงา และแคลิเพอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดความหนาแบบโบราณ ทำราวแขวน แบบนี้ทำให้เราปรับเปลี่ยนตำแหน่งของข้าวของได้ ยืดหยุ่นกว่าแบบแรก แล้วยังหยิบออกมาใช้งานได้ด้วย ตั้งซ้อนกันในมุมหนึ่งของบ้าน ถ้าชานพักบันไดในบ้านมีพื้นที่มากหน่อย ก็น่าจะตั้งโชว์ของลักษณะนี้ตรงมุมชานพักได้ ทำให้มุมที่ปกติคนมักจะเดินผ่านไปเฉยๆ มีสีสันน่าสนใจขึ้น Via elledecoration
เพื่อกระจายการลงทุน ซึ่งมหาเศรษฐีทั่วโลกให้เหตุผลนี้เฉลี่ย 42% ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการลงทุน ที่เรา "ไม่ควรใส่ไข่ไว้ในตะกร้าเดียวกัน" โดยที่มหาเศรษฐีชาวแอฟริกาให้น้ำหนักกับเหตุผลนี้มาถึง 59% รองลงมาเป็นอเมริกาเหนือ 58% และตะวันออกกลาง 56% 2. เพราะเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ โดยมีมหาเศรษฐีให้เหตุผลนี้เฉลี่ย 22% ซึ่งในจำนวนนี้น่าจะมีส่วนหนึ่งที่คิดว่า การลงทุนในสิ่งของที่จับต้องได้น่าจะเป็นการถ่วงน้ำหนักกับการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่สามารถจับต้องได้ และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับสินทรัพย์ทางการเงิน สินทรัพย์ที่จับต้องได้เหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นเงินสดแทนได้ (ซึ่งถือเป็นการกระจายการลงทุนเช่นกัน) 3.