4adk.com
2368 เมื่อบ้านเมืองขยายตัวทางราชการได้ตัดถนนช้างม่อยใหม่ขึ้น โดยเจาะกำแพงชั้นในให้ถนนราชวิถีจากในเวียงตัดตรงสู่ถนนช้างม่อยใหม่แล้วไปออกแม่น้ำปิง ดังนั้นชาวบ้านจึงเรียกประตูชั้นในที่เจาะใหม่ว่า ประตูช้างม่อย เพื่อแทนที่ประตูเดิมซึ่งถูกรื้อทิ้งไปในปี พ. 2511 ประตูท่าแพ อยู่ด้านทิศตะวันออกของเมืองบริเวณหน้าวัดแสนฝาง ที่ชื่อท่าแพ เพราะเป็นทางออกสู่ท่าน้ำแม่ปิง ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เรียกชื่อประตูนี้ว่า ประตูท่าแพชั้นนอก เพราะความเจริญเติบโตของเมืองชื่อของประตูท่าแพชั้นนอกจึงค่อย ๆ หายไป ประตูท่าแพจึงเหลือเพียงประตูเดียว ประตูหล่ายแคง หรือประตูระแกง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พบหลักฐานในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวถึง ประตูนี้ครั้งแรกเมื่อปี พ. 2313 เมื่อกองทัพธนบุรียกมาล้อมเมืองเชียงใหม่ ที่ชื่อหล่ายแคง เพราะบริเวณริมคูเมืองมีลักษณะลาดเท ในสมัยต่อมาจึงเรียกเพี้ยนมาเป็น ประตูระแกง ประตูขัวก่อม อยู่ทางทิศใต้ ปรากฏในหลักฐานโคลงมังทรารบเชียงใหม่ว่าสร้างขึ้นอย่างน้อยในปี พ. 2158 ประตูไหยา หรือ หายยา อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวถึงประตูไหยาเป็นครั้งแรกว่า "พ.
ประวัติประตูเมือง และแจ่งเมืองเชียงใหม่ ประตูเมืองชั้นในเชียงใหม่ มี ๕ ประตู ได้แก่ ประตูช้างเผือก, ประตูท่าแพ, ประตูสวนดอก, ประตูเชียงใหม่ และประตูแสนปรุง ๑. ประตูช้างเผือก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือเป็นจุดรวมไพร่พลเพื่อเตรียมสู้รบยามเกิดศึกสงคราม ๒. ประตูท่าแพ ด้านซ้าย เปรียบเสมือนประตูแขน ขา เป็นประตูทางผ่านของเจ้าในสมัยนั้น และเป็นจุดค้าขายแลกเปลี่ยนข้าวของ ๓. ประตูสวนดอก ด้านขวาที่ได้ชื่อว่าสวนดอกนั้นก็เพราะชายาของพระยากือนาชื่นชอบในการทำสวนดอกไม้ จึงมีสวนดอกไม้บริเวณนั้นมากมาย ๔. ประตูเชียงใหม่ อยู่ทิศใต้เป็นประตูมงคลของบ้านเมือง ๕.
หนึ่งในเอกลักษณ์เมืองเชียงใหม่ ที่ไม่เหมือนใครคือการมีคูเมืองล้อมรอบ และกำแพงเมือง ซึ่งอดีตเป็นคูเมืองที่ใช้ป้องกันข้าศึก และยังเป็นแหล่งประมงและแหล่งน้ำสำหรับเมืองเชียงใหม่ แม้ว่าในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีการบูรณะซ่อมแซมมาบ้างแล้วก็ตาม แนวกำแพงและประตูเมืองที่เห็นในปัจจุบันยังคงมีเค้าโครงของแนวกำแพงสมัยโบราณอยู่ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในปี พ. ศ.
(2547). เส้นทางท่องเที่ยวสถาปัตยกรรมเชิงประวัติศาสตร์: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สงวน โชติสุขรัตน์. (2508). ตำนานเมืองเหนือ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์ สุรพล ดำริห์กุล. (2542). ล้านนา สิ่งแวดล้อม สังคม และ วัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: รุ่งอรุณพับลิชชิ่ง สุรพล ดำริห์กุล. (2545). ข่วงเมืองและวัดหัวข่วง กับแบบแผนของเมืองในดินแดนล้านนา. เชียงใหม่: คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม
แจ่งเมืองเชียงใหม่ - YouTube
1839 อย่างไรก็ตามยังไม่พบหลักฐานที่กล่าวถึงการเจาะประตูนี้ หลักฐานตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวถึงประตูแสนปุงครั้งแรกสมัยมหาเทวีจิรประภา พ. 2088 "…ชาวใต้มาปล่นเอาปะตูแสนปุง บ่ได้…" สันนิษฐานที่ชื่อ แสนปุง เพราะเป็นทางออกไปสู่บริเวณที่มีเตาปุง (เตาไฟ) มากมาย เพราะด้านนอกประตูเป็นที่อยู่ของกลุ่มช่างหลอมโลหะจึงมีเตาปุงไว้หลอมโลหะจำนวนมากเปรียบนับแสน ปัจจุบันยังมีบ้านช่างหล่อพระพุทธรูปอาศัยอยู่ และถนนเลียบคูเมืองด้านนี้ชื่อถนนช่างหล่อจากความเชื่อเรื่องทิศและพื้นที่ถือเป็นเขตกาลกิณีจึงกำหนดให้ประตูแสนปุงเป็นทางออกไปสุสาน ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ สวนบวกหาด, เซ็นทรัลแอร์พอร์ต ประตูสวนดอก ตั้งอยู่ทิศตะวันตกประตูด้านนี้เป็นทางออกไปสู่อุทยานของกษัตริย์ สมัยพญากือนา พ.
2101-2317 รวมเป็นระยะเวลา 200 ปีกว่า และเป็นเมืองร้าง ต่อมาอีกกว่า 20 ปี กำแพงเมืองทรุดโทรมเป็นอันมาก ในสมัยพระเจ้ากาวิละ จึงมีการบูรณะกำแพงเมืองขึ้นใหม่ ส่วนซากกำแพงเมืองที่ยังคงเหลือ อยู่ในปัจจุบันตามมุมเมืองทุกด้านนั้น เป็นป้อมที่หน่วยศิลปากรที่ 4 อนุรักษ์ไว้เพื่อคงสภาพเดิมตามหลักฐานทางโบราณคดี มิได้เติมแต่งผิดไปจากลักษณะเดิมแต่อย่างใด